เคยไหม.. รู้สึกอยากเริ่มทำการตลาดออนไลน์ แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจว่าควรใช้โฆษณาออนไลน์แบบไหน และต้องเลือกลงในแพลตฟอร์มอะไร แล้ว Ads หรือแพลตฟอร์มรูปแบบไหนบ้างที่จะเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าของเรา ไม่ต้องกังวลไป เพราะ K Innovation ได้รวบรวมข้อมูลให้คุณไว้ที่นี่แล้ว
รวม Ads Online ทุกสำนักสำหรับ Digital Marketing
Facebook แพลตฟอร์มยอดนิยมในการทำการตลาดออนไลน์ (Facebook Ads)
เริ่มด้วยแพลตฟอร์มแรกที่เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี อย่าง Facebook ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่คนเกือบทุกเพศทุกวัยใช้กัน ยืนยันได้จากตัวเลขบัญชีผู้ใช้งานในประเทศไทยที่มีถึง 47 ล้านบัญชี
Facebook เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ เนื่องจากมีฟีเจอร์ที่สามารถตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจ หรือนักการตลาดได้อย่างครบครันทุกวัตถุประสงค์ (Objective) ไม่ว่าจะเป็น
- Awareness การสร้างชื่อเสียง สร้างการรับรู้ ให้กับตัวแบรนด์ รวมถึงสินค้าและบริการ ให้เป็นที่รู้จักไปยังกลุ่มเป้าหมาย
- Consideration เมื่อคนเริ่มรู้จักแบรนด์แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็จะเป็นการนำเสนอข้อมูลสินค้า คุณประโยชน์ และโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย หรือ กลุ่มลูกค้า เพื่อให้แบรนด์ของเราเข้าไปอยู่ในใจเป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้า
- Conversion เมื่อสามารถเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้าได้แล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำคือเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของเราให้ได้ โดยสามารถทำได้โดยการพาให้ลูกค้าเข้ามายังหน้าเว็บไซต์หลักของแบรนด์หรือเข้าไปเลือกซื้อสินค้าในแคตตาล็อกออนไลน์ก็ได้
ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้เราสามารถเข้าไปเลือกใช้ และตั้งค่าในระบบหลังบ้านของ Facebook ได้ ซึ่งรายละเอียดสามารถติดตามได้ในบทความต่อไป
ด้วยความที่ Facebook มีฟีเจอร์ครบครัน รวมถึงยังเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่มีจำนวนผู้ใช้งานในไทยเกินครึ่งของประชากรในประเทศ ทำให้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับใช้กับการทำการตลาดออนไลน์กับสินค้าบริการ ได้เกือบทุกอุตสาหกรรม
Instagram แพลตฟอร์มพี่น้องกับ Facebook
แพลตฟอร์มต่อมา คือ Instagram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพี่น้องกับ Facebook
และถึงแม้ว่า Instagram จะมีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศน้อยกว่า Facebook (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบัญชี) แต่ที่น่าสนใจ คือ จำนวนผู้ใช้งาน Instagram เป็นเพศหญิงมากถึง 63.6%
สำหรับฟีเจอร์และวัตถุประสงค์ ของ Instagram ads นั้น จะเหมือนกับ Facebook ads เนื่องจาก ต้องทำการการตั้งค่าผ่านระบบของ Facebook
Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอาง ความสวยความงาม เสื้อผ้า แฟชั่น รวมถึงศิลปะ แต่ในปัจจุบันก็ยังสามารถจับกลุ่มเป้าหมายอื่นที่น่าสนใจได้ เช่น เครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน สวน ต้นไม้ หรือเรียกได้ว่า สินค้าไหนที่สามารถนำมาถ่ายรูปสวยงาม และถ่ายทอดความอาร์ทออกมาได้ สินค้าเหล่านั้นก็สามารถนำมาทำการตลาดผ่าน Instagram ได้นั่นเอง
Twitter Ads แพลตฟอร์ม Social Media ที่กำลังมาแรง
ต่อมาคือ Twitter ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ แม้จำนวนบัญชีผู้ใช้งานในไทยจะน้อยกว่า Facebook และ Instagram โดยอยู่ที่ประมาณ 6.55 ล้านบัญชี แต่ที่น่าสนใจคือบัญชีผู้ใช้งานเพศหญิงใน Twitter มีมากถึง 78%
ฟีเจอร์ของทวิตเตอร์นั้นมีความคล้ายคลึงกับ Facebook มาก เพราะสามารถสร้างได้ทั้ง Awareness, Consideration และ Conversion นอกจากนี้ยังสามารถซื้อโฆษณาให้ขึ้น Top trend ทวิตเตอร์ และสร้าง # hashtag เพื่อใช้ในการโปรโมทได้ แต่การซื้อโฆษณารูปแบบ Top trend และ #hashtag นั้นมีราคาค่อนข้างสูง จึงเหมาะกับแบรนด์ใหญ่ที่มีกำลังซื้อ
แต่การทำการตลาดในแพลตฟอร์ม Twitter ไม่สามารถใช้การทำโฆษณาโดยตรงอย่างเดียวได้ เพราะพฤติกรรมของผู้ใช้งานทวิตเตอร์นั้นมักจะตามแต่คอนเทนต์ที่น่าสนใจ หรือเป็นกระแสในช่วงนั้น ดังนั้นลักษณะคอนเทนต์ที่ใช้ทำโฆษณาในทวิตเตอร์จึงควรล้อไปกับ เทรนด์หรือกระแสสังคมในทวิตเตอร์ช่วงนั้นนั่นเอง
แพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอสั้น โฆษณาไปกับ Tiktok Ads
ต่อกันที่แพลตฟอร์มน้องใหม่ไฟแรงอย่าง Tiktok ที่เป็นแพลตฟอร์มสร้างคอนเทนต์วิดีโอสั้นในความยาวประมาณ 15 วินาที ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ยืนยันด้วยอันดับ 7 ของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่คนไทยนิยมใช้งาน เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่ที่มาแรงแซงทางโค้งจริงๆ
ในส่วนของฟีเจอร์การโฆษณาปัจจุบัน Tiktok ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เน้นในเรื่องของการสร้าง Awareness เช่น การปรากฏโฆษณาขึ้นมาเมื่อผู้ใช้งานเปิดใช้คลิป หรือ ปรากฏในระหว่างที่ผู้ใช้งานดูวิดีโอใน Feed อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการสร้างโฆษณาใน Tiktok ก็จะสามารถทำได้ด้วยควรติดต่อผ่านเอเจนซี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Tiktok เพราะ Tiktok ยังไม่ได้เปิดให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถสร้างแคมเปญเองได้
โฆษณาบน Search Engine ไปกับ Google Ads
แพลตฟอร์มต่อมาจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก Google นั่นเอง โดย Google ads หลักๆ ที่มักนำมาใช้โฆษณาจะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
GSN (Google Search Network) หรือเป็นที่เรียกติดปากกันว่า Search ads ซึ่งเป็นโฆษณาที่จะปรากฏในหน้า Google Search Engine เมื่อมีลูกค้าค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ ซึ่ง Keyword เหล่านั้นเจ้าของกิจการร้านค้าหรือนักการตลาดจะต้องวิเคราะห์เลือกใช้จากการเก็บสถิติหลังบ้าน
GDN (Google Display Network) คือ โฆษณาที่จะไปปรากฏในเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นเครือข่ายของ Google โดยอาจเป็นได้ทั้งภาพนิ่ง (Banner) หรือภาพ Gif ก็ได้ จุดสังเกตคือ โฆษณาเหล่านี้มักมีอักษร x i สีฟ้าปรากฏอยู่มุมบนขวาของโฆษณานั้นๆ
Youtube ads เป็นโฆษณาที่จะปรากฏในแพลตฟอร์ม Youtube โดยมีทั้งรูปแบบโฆษณาที่เป็นวิดีโอ และภาพนิ่ง
Google ads ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีรูปแบบ Ads ค่อนข้างหลากหลาย การเลือกใช้งานจึงควรเป็นไปตามความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา ซึ่งผู้อ่านสามารถติดตามได้ในบทความต่อไป
Line LAP หรือ Line Ads Platform ผู้เล่นที่ไม่ควรมองข้าม
สุดท้าย.. เป็นแพลตฟอร์มที่เรียกได้ว่าเกือบทุกคนต้องใช้งานกันในชีวิตประจำวันกันทุกวัน นั่นก็คือ Line ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีการลง Ads ให้เลือกใช้ค่อนข้างเยอะมาก เพราะนอกจากตัว Chat Application ที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ยังมี Application อื่นๆ เช่น Line TV, Line Man ดังนั้นในบทความนี้จะยกตัวอย่างโฆษณาของ Line บางตัวดังนี้
- Line LAP เป็นโฆษณาที่จะไปปรากฏตาม Placement ต่างๆ ภายใน Line Chat Application เช่น หน้า Timeline, หน้า Line Today เป็นต้น
- Line TV Ads เป็นโฆษณาที่จะไปปรากฏตาม Placement ภายใน Line TV Application เช่น โฆษณารูปแบบวิดีโอที่ปรากฏก่อนที่ซีรีย์กำลังจะเริ่มเล่น
ซึ่งรายละเอียดต่างๆสำหรับโฆษณารูปแบบต่างๆของ Line นั้นผู้อ่านสามารถติดตามบทความต่อไปได้เช่นกัน
Digital Marketing เป็นเรื่องง่ายๆ หากเรารู้จักใช้ Platform ต่างๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ คงพอเห็นภาพกันแล้วว่าในโลกออนไลน์นั้นมีแพลตฟอร์ม และรูปแบบโฆษณาให้เลือกใช้หลากหลายมากมาย ดังนั้นใจความสำคัญของการทำการตลาดคือต้องหาให้เจอก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร มีพฤติกรรมการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างไร และเค้าสนใจในเรื่องอะไร ซึ่งแน่นอนว่านี่แหละคือสิ่งที่มีผลกับการทำโฆษณาเป็นอย่างมาก แต่ถ้าอ่านจนจบแล้วก็ยังงงๆ ไม่แน่ใจ ต้องการหาใครซักคนมาให้คำปรึกษาและต้องการทำความรู้จักกับ Digital Marketing ให้มากขึ้น ก็อย่ารอช้า ติดต่อ K innovation มาได้เลย