Youtube ถือว่าเว็บไซต์ยอดฮิตที่ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมาก เพราะเป็นเว็บไซต์ที่เราสามารถเข้าไปเลือกดูคลิปต่างๆ ได้ฟรี ทุกที่ทุกเวลา และยังมีประเภทของคลิปวีดีโอให้เลือกมากมาย จึงไม่แปลก ที่คนจำนวนมากใช้เวลาอยู่บน Youtube กันเป็นส่วนใหญ่
การเลือกทำการตลาดออนไลน์บน Youtube จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และสามารถสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างตรงจุดผ่านคลิปวีดีโอ ที่มีทั้งภาพและเสียงชัดเจน ไม่ต้องเสียเวลาอ่านเหมือนคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ
ทำการตลาดออนไลน์ให้ปัง ด้วย ads บน youtube
ในปัจจุบันนี้ ก็มีการทำ Ads แบบต่างๆ บน Youtube ให้เลือกมากมาย ที่เราสามารถทำด้วยตัวเองๆ ได้ง่ายๆ ดังนี้
- แบบ True view
เป็นแบบที่จะมีการคิดเงินก็ต่อเมื่อคลิปวิดีโอถูกชมจริงๆ เท่านั้น ซึ่งก็แบ่งออกเป็น 3 แบบย่อยๆ ด้วยกัน คือแบบ in stream หรือก็คือคลิปสั้นๆ ที่แสดงให้คนดูเห็น ทั้งแบบที่เราสามารถกด skip ได้และกด skip ไม่ได้ ส่วนแบบ in display และแบบ in search จะคิดเงินก็ต่อเมื่อมีการคลิกลิงค์เข้าไปดูโฆษณานั้นจริงๆ เท่านั้น
- แบบ Mastheads
เป็นการซื้อแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่จะเห็นได้บนหน้า Homepage โดยจะเปิดให้ซื้อกันแบบ Fixed Banner และขายกันเป็นวัน ให้เราเลือกได้ตามสะดวกเลยว่าต้องการใช้ Ads ในรูปแบบนี้ในการทำการตลาดออนไลน์ด้วยหรือไม่
- แบบ Display ads
จะเป็น ads ขนาดประมาณ 300×250 px ที่จะปรากฎให้ผู้ชมเห็นบนหน้าต่างๆ ของ Youtube ยกเว้นหน้าแรก โดยตำแหน่งที่จะพบเห็นได้ ก็คือตรงข้างๆ คลิปวีดีโอหรืออยู่เหนือ Suggest video ขึ้นไป ซึ่งในบางแบรนด์ก็เลือกที่จะทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ ads ประเภทนี้เนื่องจากไม่เป็นการรบกวนการชมคลิปของคนดูและมีโอกาสที่จะถูกพบเห็นได้ง่ายเช่นกัน
- แบบ Overlay in-video ads
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เป็น Banner โฆษณานั่นเอง ซึ่ง ads แบบนี้จะแสดงซ้อนอยู่บนตัววีดีโอหลักที่ผู้ชมคลิกเข้ามาดู
- แบบ One million view pack
สำหรับ Ads ประเภทนี้ จะเป็นการซื้อโฆษณากับทาง Google โดยตรง โดยที่ทาง Google จะเป็นคนเซตค่าใช้จ่ายมาให้เราแบบเหมาจ่าย และจะมีการการันตียอดวิวให้ 1 ล้านวิวใน 4 สัปดาห์ แต่ ราคาจะค่อนข้างสูงมาก การเลือกทำการตลาดออนไลน์ด้วยวิธีนี้ จึงต้องมีการวางแผนและศึกษาข้อมูลกันด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ได้ ตรงตามที่เราตั้งใจและไม่ขาดทุน
- แบบ Reserved ad
จะเป็นแบบที่จ่ายเงินซื้อโฆษณาที่เน้นกลุ่มเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อที่เราจะได้ทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างตรงจุด โดยทาง Google จะมีแพคเกตมาให้เลือก หรือจะ request เพิ่มเติมไปก็ได้ จากนั้น โฆษณาของเราก็จะไปปรากฏตามคอนเทนต์ในแต่ละแพคฯ ที่ซื้อเอาไว้ เช่น ถ้าคุณเลือกแบบ music pack โฆษณาก็จะไปแสดงให้เห็นตามหน้าเว็บหรือเนื้อหาที่เป็นเพลง เป็นต้น
ดังนั้น การจะเลือกทำการตลาดออนไลน์จึงมีอีกหลายเรื่องที่เราควรวางแผนกันให้รอบคอบและศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อให้การลงทุนกับ Ads ในแต่ละแบบ เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ หรือในกรณีที่ต้องการคำแนะนำหรือคำปรึกษาใดๆ เพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อเข้ามาที่ Kinnovation ของเราได้เช่นกัน
Copyright @2016 K Innovation.co.th All rights reserved