1.54 วินาที คือเวลาที่ผู้บริโภคในยุคปัจจุปันหยุดให้ความสนใจในสิ่งที่ผ่านสายตา และประมวลผลว่า สิ่งนี้ดูเข้าท่ามากพอที่พวกเขาจะหยุด ดู หรือ อ่าน มากขึ้นหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการกดรีโมตทีวีเพื่อเปลี่ยนช่อง หรืออ่านพาดหัวข่าวหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ ตลอดจนการเลือกอ่าน Content ของโฆษณาออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต
นั่นแปลว่าในการทำโฆษณาออนไลน์ หากภาพ, VDO สั้นๆหรือคำโปรยพาดหัวของคุณไม่สะดุดตาพอ อย่าว่าถึงการจับกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้าเลย แค่ลำพังให้พวกเขาหยุดสังเกตเห็นถึงสินค้า และบริการของเรา ในโลก new feeds อันจอแจแทบจะเป็นไปไม่ได้
สรุปได้ง่ายๆว่า ผู้คนล้วนต้องการดูอะไรที่แปลกใหม่ และยิ่งหากพวกเขาเห็นโฆษณาออนไลน์นั้น ๆ เป็นคนแรกของกลุ่ม พวกเขาก็ไม่มีรีรอที่จะบอกต่อ
ช่างตรงกับเทรนด์ของการทำโฆษณาออนไลน์บน Facebook ปี 2016 อะไรเช่นนี้ สำหรับนักการตลาดออนไลน์ นักโฆษณาออนไลน์ที่คอยอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆตอนนี้คงจะเริ่มทราบกันแล้วว่า ปัญหาดังกล่าวสามารถถูกแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ของโฆษณาออนไลน์บน Facebook ด้วยเทคนิคการใช้ Cinematograph Creative หรือภาพเคลื่อนไหวเฉพาะจุดเล็กๆ ที่ดูแล้วสร้างได้ง่ายกว่าการทำ VDO Content, ประหยัดต้นทุนโฆษณาออนไลน์มากกว่า และยังช่วยหยุดทุกคู่สายตาของกลุ่มเป้าหมายให้ “เอ๊ะ นี่อะไร?” ไปชัวขณะ ส่งผลให้ต้องหยุดดู เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาลองดูตัวอย่างกัน
ใช่แล้ว สั่นๆง่ายๆ แต่ตราตรึง ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากส่งมอบความรู้สึกแบบไหนแก่ลูกค้าของคุณ พริ้วไหว, ซาบซ่าน, สนุกสนาน หรือประหลาดใจ ไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ ก็ได้ใจแฟนๆ ซึ่งการเลือกใช้ Cinematograph Creative นี้ นอกจากจะทำให้เกิด Brand awareness แล้วยังมีผลพลอยได้ทำให้ค่าโฆษณาออนไลน์ของเราถูกลงอีกด้วย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายที่มีการหยุดดูอาจจะกด Like หรือมีปฏิสัมพันธ์กับเราผ่านช่อง Comment หรือ Tag เพื่อนๆของเขาได้
อีกหนึ่งตัวอย่างการใช้ Cinematograph Creative ในโฆษณาออนไลน์ที่ยอดการเข้าถึงสูงมาก และถูก Share อย่างไม่รู้จบ
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะทราบถึงวิธีการทำ Cinematograph Creative ผ่าน Power Editor โจทย์ที่นักการตลาดอย่างเราต้องเข้าใจอย่างแท้จริงก็คือ Cinematograph Creative นั้นเป็นแค่ตัวช่วยใหม่ล่าสุดเท่านั้น ในส่วนของเนื้องานพื้นฐานในการทำโฆษณาออนไลน์แล้ว หากเรายังไม่ชำนาญในการ Set ค่าของคุณสมบัติพื้นฐานต่างๆในการทำโฆษณาแต่ล่ะครั้ง, วางแผนในการทำแคมเปญโฆษณาออนไลน์ให้ครอบคลุม, การใช้ Wording ที่เหมาะสม, การคิดต่อว่า Call to action ที่เราต้องการให้กลุ่มเป้าหมายทำคืออะไร รวมถึงขั้นตอนการวัดผล ผลลัพธ์ก็อาจจะออกมาไม่ดีเท่าที่วาดหวังไว้ก็เป็นได้
เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายคน อ่านมาถึงตรงนี้ย่อมเกิดความรู้สึกคันไม้คันมือ อยากลงมือทำกันดูบ้าง แต่หากไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นอย่างไร จะเสียมากกว่าได้หรือเปล่า ลองปรึกษา Kinnovation ที่มีประสบการณ์ในการทำโฆษณาออนไลน์ที่หลากหลายมาดูก่อนได้ เรายินดีตอบทุกข้อสงสัยในการทำโฆษณาออนไลน์ และให้คำแนะนำที่ตอบโจทย์กับธุรกิจของคุณ
Copyright @2016 K Innovation.co.th All rights reserved